พฤหัสบดี, 03 ตุลาคม 2024
Home


ภาพนี้เป็นลิขสิทธิ์ของ Sages Academy ห้ามมิให้ผู้ใด นำไปทำซ้ำ ดัดแปลง แก้ไข หรือ เผยแพร่ โดยมิได้รับอนุญาตเป็นลายลักษณ์อักษรจาก Sages Academy ผู้ละเมิดจะถูกดำเนินคดีตามกฎหมาย






ชัยภูมิเป็นสิ่งสำคัญ



เมื่อพูดถึงอภิปรัชญาจีน ระบบ ฟ้า ดิน คน โดยเฉพาะวิชาฮวงจุ้ย สิ่งที่จะขาดไม่ได้ก็คือ “ชัยภูมิ” อาจกล่าวได้ว่า ชัยภูมิ คือ หัวใจ เป็นสิ่งสำคัญของผู้ศึกษาวิชานี้เลยก็ว่าได้ เพราะว่า ผู้มีความเข้าใจในระบบชัยภูมิ ย่อมเข้าใจวิชาฮวงจุ้ยอย่างแตกฉาน แต่สิ่งที่คนทั่วไปไม่ทราบก็คือว่า ชัยภูมิสามารถเป็นสิ่งกำหนดความเป็นไปของบุคคลภายในบริเวณพื้นที่นั้นๆ ได้เลย ทั้งในระบบมหภาคและจุลภาค ในทางวิชาฮวงจุ้ยชั้นสูงนั้น ให้ความสำคัญกับชัยภูมิเป็นอย่างสูง อาจกล่าวได้ว่า ชัยภูมิมีอิทธิพลต่ออาคารบ้านพักอาศัยนั้นๆ มากถึง 50 ส่วน ในจำนวน 100 ส่วน ซึ่งจะมีใครสักกี่คนรู้ว่า ในทุกช่วงเวลาที่ชัยภูมิเปลี่ยนแปลงไป ผู้อาศัยในบริเวณนั้นๆ ย่อมมีความเปลี่ยนแปลงไป ทั้งความเป็นอยู่ อาชีพ สุขภาพ และ นิสัย ย่อมเปลี่ยนไปตามสภาวะแวดล้อม ผู้ศึกษาวิชาฮวงจุ้ยบางกลุ่ม ที่ไม่มีความรู้ความเข้าใจในหลักวิชา มักให้ความสำคัญกับ “หลักการชัยภูมิ” น้อยมาก จนบุคคลที่ตั้งตัวเป็นอาจารย์สอนหลักวิชาฮวงจุ้ยเฮี่ยงคง ดาว 9 ยุค บางคน ถึงกับกล้ากล่าวว่า “ชัยภูมิเป็นแค่พื้นฐานในหลักวิชาฮวงจุ้ย ซินแสชั้นสูงย่อมให้ความสำคัญกับหลักการคำนวณปราณ” แต่ตามหลักวิชาและซินแสผู้ศึกษาวิชาฮวงจุ้ยชั้นสูง ต่างให้ความสำคัญกับหลักวิชาชัยภูมิมากยิ่งกว่าหลักการคำนวณปราณ เพราะเมื่อใดก็ตามที่ชัยภูมิไม่ส่งเสริม การคำนวณปราณไม่มีผลทั้งสิ้น หรือ หากมีผล ผลที่ได้รับก็เพียงน้อยนิด สำหรับผู้ให้ความสำคัญกับหลักวิชาชัยภูมิน้อย เนื่องจาก




1. ไม่มีผู้ที่มีความรู้ ความสามารถจริง ถ่ายทอด
2. ขาดความรู้ ความเข้าใจ ในกระบวนการของหลักวิชาฮวงจุ้ย


องค์ประกอบของวิชาฮวงจุ้ยชั้นสูง จะประกอบไปด้วย
- รูปดวงบุคคล (ปี เดือน วัน ยาม)
- ชัยภูมิ ทั้งมหภาค และ จุลภาค
- หลี่ขี่ ทิศทาง องศา
- ฤกษ์ยาม


หลักวิชาชัยภูมิ ย่อมมีความสัมพันธ์กับหลักการคำนวณปราณ เพื่อหาองศา และ ทิศทางที่เหมาะสม เป็นกระบวนการที่แยกออกจากกันไม่ได้ หากแยกกันเมื่อใด การปรับแต่งแก้ไขฮวงจุ้ยย่อมส่งผลเสียโดยทั้งหมด


จะมีสักกี่คนที่ทราบว่า การศึกษาวิชาชัยภูมิเป็นสิ่งที่ศึกษาได้ยาก ดังคำกล่าวที่ว่า “ชัยภูมิล้านที่ ฮวงจุ้ยล้านแบบ” ย่อมเป็นสิ่งยืนยันถึงหลักการของวิชาชัยภูมิว่า เป็นเรื่องละเอียดอ่อน สลับซับซ้อนมาก จะเห็นได้จากผู้สนใจศึกษาศาสตร์ฮวงจุ้ยจำนวนมากที่ศึกษามาจากชมรมและสถาบันสอนฮวงจุ้ยต่างๆ เมื่อข้าพเจ้าสอบถามเอาความ ก็ทำให้ทราบว่า บรรดาอาจารย์ผู้สอนวิชาต่างๆ เหล่านั้นอ่อนวิชาชัยภูมิ จะด้วยไม่ได้ศึกษามาอย่างแท้จริง ความรู้ของผู้ที่เคยเข้าอบรมกับชมรมและสถาบันต่างๆ เหล่านั้น ย่อมเป็นสิ่งชี้วัดความสามารถของอาจารย์ต่างๆ เหล่านั้น


ในหลักวิชาชั้นสูง ล้วนมีระบบการพิจารณา และ จำแนกแยกแยะชัยภูมิทั้งดีและร้าย โดยอาศัยหลักการ 5 ธาตุ เป็นเครื่องพิจารณา ในข้อนี้เอง ผู้สนใจศึกษาหลักวิชาฮวงจุ้ย มักเข้าใจว่า "เมื่อชัยภูมิดีล้วนมีชัยไปกว่าครึ่ง" หรือ "ชัยภูมิดีย่อมได้เปรียบ" ข้อนี้ล้วนมิใช่เรื่องจริง เพราะ หากเมื่อพิจารณารูปดวงบุคคลแล้ว รูปดวงดังกล่าวไม่ได้เข้ากับพื้นที่นั้นๆ แล้ว ย่อมส่งผลกระทบต่อบุคคลทั้งหมดไม่ว่ากรณีใดๆ สำหรับหลักการในการพิจารณา ก็ล้วนใช้หลักการพื้นฐานของ 5 ธาตุทั้งสิ้น เช่น บุคคลธาตุน้ำ ย่อมไม่ชอบลักษณะชัยภูมิเป็นธาตุดิน เพราะชัยภูมิพิฆาตบุคคล ทำให้บุคคลนั้น เมื่อเข้าไปอาศัยหรือเข้าไปในบริเวณพื้นที่นั้นๆ เกิดความรู้สึกอึดอัด ในทางกลับกัน ลักษณะพื้นที่ชัยภูมิธาตุดิน กลับส่งผลดีกับบุคคลคนธาตุทอง ทำให้บุคคลนั้นเกิดความพอใจ สุขภาพร่างกายแข็งแรง ธุรกิจหน้าที่การงานเจริญก้าวหน้า ลักษณะเช่นนี้ ข้าพเจ้าเคยให้ความเห็นแก่คณะศิษย์ว่า “ที่เลือกคน มิใช่คนเลือกที่” ข้าพเจ้าเป็นคนกล่าวแก่คณะศิษย์ทุกครั้งที่มีการไปตรวจดูฮวงจุ้ยสถานที่ ซินแสที่มีความรู้ความเข้าใจหลักวิชาชัยภูมิชั้นสูง จะมีความสามารถใช้การทำนายในการกำหนดตำแหน่งความเจริญและเสื่อมโทรมของของพื้นที่นั้นๆ ได้อย่างแม่นยำ ยากจะอธิบายด้วยหลักการสมัยใหม่ การพิจารณาลักษณะของชัยภูมินั้นแบ่งออกเป็นหลายประเภท เช่น
1. การแบ่งพื้นที่ ความเจริญรุ่งเรือง และ เสื่อมโทรม โดยการใช้หลักการ 5 ธาตุ อิม-เอี้ยง
2. การพิจารณารูปทรง พื้นฐาน และ สภาวะแวดล้อม
3. การแบ่งพื้นที่ กำหนดความสูง-ต่ำของพื้นที่
4. ลักษณะทางน้ำ ถนน กระแส
5. สิ่งก่อสร้าง และ รูปทรงที่อยู่แวดล้อม


                


สำหรับการพิจารณาชัยภูมิ ย่อมมี 2 ลักษณะ คือ ลักษณะชัยภูมิโดยมหภาค และ ลักษณะชัยภูมิโดยจุลภาค ลักษณะชัยภูมิโดยมหภาคนั้นไม่สามารถปรับปรุงแก้ไขได้ แต่สามารถลดผลกระทบของสิ่งที่มาทำลายอำนาจของทิศนั่งบ้านลงได้ ทั้งนี้สิ่งที่มีลักษณะต่างๆ กันนั้น ในรูปแบบ รูปทรง สีสัน และ สิ่งก่อสร้างอาคาร มี 2 แบบ คือ
1. แก้ไข ใช้สำหรับตำแหน่งวิบาก
2. ส่งเสริม ตำแหน่งส่งเสริม โชคลาภ บารมี


การแก้ไข ในหลักวิชาฮวงจุ้ย คือ หากมีสิ่งแวดล้อมที่มีลักษณะคุกคาม เช่น มุมตึก บ้านร้าง ตึกที่ก่อสร้างยังไม่เสร็จ หม้อแปลงไฟฟ้า คานบ้าน ฯลฯ ย่อมส่งผลให้บุคคลภายในอาคาร สถานที่นั้น มีลักษณะนิสัยตรงกับในตำแหน่งวิบากในหลักวิชานั้นๆ ย้ำว่า ต้องอยู่ในตำแหน่งวิบากของหลักวิชานั้นๆ ไม่สามารถนำเอาตำแหน่งวิบากของวิบากที่แตกต่างมาใช้ได้ หากเราจัดบ้านด้วยวิชาใด ก็กำจัดวิบากที่เกิดจากชัยภูมิด้วยหลักการของวิชานั้นๆ ฉะนั้น หากสิ่งที่มีลักษณะคุกคามดังที่กล่าวมาแล้ว จึงแก้ไขด้วยการปลูกต้นไม้บัง การนำเอากระจกนูน กระจกเว้า สิงห์คาบดาบ ยันต์ 8 ทิศ มาใช้แก้ ไม่ใช่สิ่งที่นำมาใช้ในวิชาฮวงจุ้ยแท้จริง


การส่งเสริม ในหลักวิชาฮวงจุ้ยชั้นสูงนั้น การส่งเสริม มิใช่การวางอ่างน้ำพุ หรือ การวางตู้ปลา สิ่งเหล่านี้ล้วนไม่ใช่การนำเอาหลักวิชาฮวงจุ้ยมาใช้งาน เป็นหลักการซึ่งถูกคิดค้นมาในตอนหลัง หาใช่หลักวิชาฮวงจุ้ยแท้จริงไม่ การส่งเสริมในหลักวิชาฮวงจุ้ยนั้น จะใช้หลักการวางสิ่งของที่มีรูปทรงสอดคล้องกับตำแหน่งที่เกี่ยวพันกับพื้นที่นั้นๆ ในข้อนี้เอง สามารถหาได้จากในบ้านของตน เมื่อใดก็ตามที่ซินแสเดินเข้าบ้านของท่าน แล้วแนะนำให้ซื้อของนั่นของนี่มาแก้ไข แสดงว่า ซินแสท่านนั้น เป็นซินแสที่ไม่ได้รับการฝึกฝนมาอย่างแท้จริง หากเป็นเช่นนี้ เดินเข้าบ้านไหน ฉิบหายบ้านนั้น การแก้ไขฮวงจุ้ย คือ การปรับปรุงเคลื่อนย้ายสิ่งของภายในบ้าน ให้สอดคล้องกับทิศทางและลักษณะชัยภูมินั้นๆ


ฉะนั้น สิ่งสำคัญที่ควรต้องทราบ คือ ชัยภูมิยังแบ่งออกเป็น ชัยภูมิภายนอก และ ชัยภูมิภายใน อย่างไรก็ตาม ชัยภูมิทั้ง 2 ประเภท ก็ยังต้องสอดคล้องกันแทบทั้งสิ้น ลักษณะการจัดวางจะต้องสอดคล้องกับหลักวิชา ที่ใช้สำหรับการปรับแต่งแก้ไขนั้นๆ หากผิดพลาด หรือ ไม่สอดคล้อง จะทำให้การกำหนดปราณ หรือ การคำนวณพลังงานของปราณผิดพลาดทั้งหมด แต่ทั้งหมดนั้น ยังต้องอาศัยรูปดวงบุคคล คำว่า “รูปดวงบุคคล” นั้น คือ ต้องนำเอา ปี เดือน วัน ยาม ของเจ้าบ้าน มาพิจารณาว่า สอดคล้องกับชัยภูมิและทิศทางนั้นๆ หรือไม่ ถ้าจะว่าไปแล้ว หลักวิชาฮวงจุ้ยนั้นมีความละเอียดอ่อนพอสมควร หาใช่หลักการที่ง่ายดาย ลัดสั้น เหมือนอย่างที่บุคคลทั่วไปเข้าใจ การจะศึกษาวิชาการฮวงจุ้ยชั้นสูงให้แตกฉานนั้น ล้วนต้องผ่านการศึกษาหลักการทางชัยภูมิมาแล้วไม่ต่ำกว่า 10 ปี เพราะหลักการชัยภูมินี้เอง ทำให้หลักวิชาฮวงจุ้ยชั้นสูงทรงประสิทธิภาพ หากเราไม่สามารถบรรลุหลักวิชาชัยภูมิได้ เท่ากับว่าที่ทำมาทั้งหมดมีผลไม่ถึงครึ่ง ฉะนั้น ผู้สนใจควรพิจารณาหลักการทางชัยภูมิให้ดี หากต้องการศึกษาก็ควรศึกษาจากผู้มีประสบการณ์จริง จะได้รับความรู้อันสามารถนำไปใช้งานได้จริง ถ้าศึกษาจากผู้รู้มาจากตำราจะไม่ได้รับความรู้ที่ถูกต้อง และ เมื่อศึกษาวิชาชัยภูมิ การนั่งศึกษาจากภาพถ่ายและตำราเพียงอย่างเดียว ยังไม่เพียงพอที่จะช่วยให้เข้าใจหลักชัยภูมิได้อย่างแท้จริง การศึกษาหลักวิชาชัยภูมิที่ถูกต้องนั้น ควรศึกษาจากสถานที่จริง และ สภาพแวดล้อมจริง ผนวกเข้ากับหลักการความรู้พื้นฐานในเรื่องของชัยภูมิที่เรียนในห้องเรียนนั้นเป็นปัจจัยพื้นฐาน



อ่านบทความคุยกับซินแสทั้งหมด >>> คลิ๊กที่นี่

 

บทความยอดนิยม Popular Articles

บทความล่าสุด Latest Articles

เรื่องน่าสนใจ Sages Recommend



กรณีที่ท่านมีปัญหาในการเข้าชมเว็บนี้ อันเนื่องมาจากเวอร์ชั่นของ Internet Explorer (IE) ของท่านเป็นเวอร์ชั่น 6 หรือต่ำกว่า ดังนั้นเพื่อให้เข้าชมเว็บให้ได้อย่างมีอรรถรส กรุณาอัพเดทเวอร์ชั่นของ Internet Explorer (IE) เป็นเวอร์ชั่น 7 ก่อน สามารถดาวน์โหลดได้ที่นี่

หรือทำการติดตั้ง Firefox สามารถดาวน์โหลดได้ที่นี่

 

Your are currently browsing this site with Internet Explorer 6 (IE6).

Your current web browser must be updated to version 7 of Internet Explorer (IE7) to take advantage of all of template's capabilities. Download IE7